หลังข่าวนี้ออกมาปรากฏว่า นาโอมิ ได้รับเสียงสนับสนุนจาก

เพื่อนนักกีฬามากมาย

เป็นต้นว่า เซเรนา, วีนัส วิลเลียมส์, นักวิ่งอาชีพอังกฤษอย่าง ดินา แอชเชอร์-สมิธ ก็บอกว่าเธอทำถูกต้องแล้ว แม้นักข่าวหลายคนทำงานได้ดี แต่มีบางคนที่พยายามค้นหา สืบเสาะนักกีฬาที่มีปัญหาในสภาพจิตใจ บางคนนำมาเป็นประเด็นในคอลัมน์ โดยใช้ชื่อเสียงนักกีฬาเป็นเครื่องมือ ซึ่งมันไม่โอเค” รวมทั้ง แฟนเทนนิสของเธอเข้ามาให้กำลังใจในโซเชียล มีเดีย ล้นหลาม

ตำนานนักเทนนิสอย่าง บิลลี จีน คิง ก็สนับสนุน เธอบอกว่า นาโอมิ กล้า ที่พูดความจริงเรื่องสภาพจิตใจที่หดหู่ และความยากลำบากในการปรับตัวกับเรื่องนี้โดยไนกี้ ผู้สนับสนุนหลักของเธอออกโรงสนับสนุนการตัดสินใจของ โอซากะ ส่วนเจ้าอื่นๆ ทั้งนิสสัน, ออล นิปปอน แอร์เวยส์, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นิสชิน เคารพการตัดสินใจของเธอแต่ไม่ขอวิจารณ์เรื่องนี้ ปมปัญหาเรื่องนี้เหมือนง่ายแต่มันกลายเป็นยาก…การงดให้สัมภาษณ์สื่อด้วยปัญหาสุขภาพจิต ที่เธอเผชิญหน้าหรือนักกีฬาคนอื่นต้องรับมือกับความกดดัน หลังจากคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ซึ่ง นาโอมิ เผชิญหน้ากับมันและเธอยอมรับว่าเธอมี ปัญหาเรื่องนี้อยู่ ยังต้องสู้ ต้องรับมือกับมันให้ได้ กระนั้นงาน “สื่อ” คือส่วนหนึ่งในการแข่งขันกีฬา สื่อต้องนำเสนอข่าวจากการให้สัมภาษณ์ของนักกีฬาหลังจบการแข่งขัน เพียงแต่ “อะไร” คือสิ่งที่สื่อถามได้หรือไม่ได้ หรือไม่ควรถาม การถามจี้ ในจุดอ่อนของนักกีฬา โดยเฉพาะผู้แพ้ “คุณรู้สึกยังไงที่แพ้การแข่งขัน” นาโอมิ และใครก็ตามคงรู้สึกดีมั้ง…ที่แพ้ เซเรนา ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาวันแพ้ นาโอมิ โอซากะ

ในยูเอส โอเพ่น ก่อนลุกออกจากห้องไป คือในวันที่เลวร้ายของนักกีฬาเมื่อแพ้การแข่งขัน เล่นแย่ เล่นไม่ดี

ตกรอบ อะไรเหล่านี้ เชื่อว่าพวกเขาคงไม่อยากเดินเข้าห้องแถลงข่าวมาทำตามกฏระเบียบมากนัก นี่ก็ตรงข้ามกับนักกีฬาที่ชนะ มันคนละอารมณ์ความรู้สึก มุมของสื่อ…ย่อมมองว่า “เอ้ย ผมก็ถามคำถาม มาทำงานเพื่อหาข่าวไปให้แฟนเทนนิส แฟนกีฬาได้อ่านได้ทราบกัน จะถามอะไรก้ได้ คุณจะมีสิทธิ์ไม่ตอบหรือตอบเลี่ยงๆก็ได้” ประเด็นนี้ดูเหมือนว่านักเทนนิสหลายคนบอกว่า “คำถามบางคำถาม ไม่เคารพนักกีฬา ถามแบบทำร้ายจิตใจ ถามเหมือนดูถูก

ถามเหมือนเยาะเย้ย” บางสำนักอย่าง มารินา ไฮด์ คอลัมนิสต์สายเทนนิสของ น.ส.พ. เดอะ การ์​เดี้ยน ก็ออกมาเขียนโจมตี โอซากะด้วยเหมือนกันที่ถอนตัว เธอมองว่า “การถาม” คืองานของ “สื่อ” เพราะต้องการเจาะลึกจากข้างในเมื่อ นักกีฬาชนะหรือแพ้ นักข่าวจะเรียนรู้และถ่ายทอดให้แฟนกีฬาได้ทราบและเข้าใจ มันคืองานของสื่อ เออ…ค่ากลางมันอยู่ตรงไหนกันเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม…การถอนตัวของ นาโอมิ โอซากะ ส่งผลให้ เฟร้นช์​ โอเพ่น ขาดสตาร์ดังในการแข่งขันไป และฝ่ายจัดถูกวิจารณ์ว่า “รับมือ” กับเรื่องนี้ได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะการ “ข่มขู่” ตัดออกจากการแข่งขันและจะห้ามเล่นแกรนด์สแลม ในอนาคต ทั้งที่ นาโอมิ ให้สัมภาษณ์​ก่อนแล้วว่าเธอต้อง “ปกป้อง” ตัวเองจากการโดนทำร้ายทางสุขภาพจิตโดยนักข่าว มีคนไม่ค่อยเห็นด้วยกับฝ่ายจัดเรื่องนี้เท่าไหร่ เหมือนมาเป็นตัวเร่งให้เกิดการถอนตัวและเป็นเรื่องราวขึ้นมาในวงการเทนนิสโลก อย่างเช่น สตีเฟน เคอร์รี ยอดนักบาสเกตบอลบอกว่า

“การใช้อำนาจที่ไม่ได้ปกป้องตัวของฝ่ายจัดเอง” ลอรา รอบสัน อดีตนักเทนนิสดังของอังกฤษ แสดงทัศนะว่า “ฉันเชื่อว่าแฟนกีฬามากมายผิดหวังในการจัดการรับมือเรื่องนี้ของ ฝ่ายจัดเฟร้นช์ โอเพ่น การข่มขู่นักกีฬานั้นดูรุนแรงเกินไป” นาโอมิ โอซากะ เคยพูดเรื่อง กฏ ระเบียบ การสัมภาษณ์กับสื่อว่า “กฏเริ่มล้าสมัยแล้วในจุดนี้”

ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ nicolasbrodziak.com